ตัดหนังและไขมันหน้าท้อง
Abdominoplasty
ภาวะหนังหน้าท้องหย่อนนั้นพบได้บ่อยในผู้สูงอายุที่มีนํ้าหนักมาก ผู้ที่เคยตั้งครรภ์มาก่อน ผู้ที่นํ้าหนักลดลงมากๆ โดยจะพบลักษณะผิวหนังและกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องหย่อนคล้อย ซึ่งอาจพบร่วมกับการมีไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้องด้วย ต้องให้การวินิจฉัยแยกกับภาวะอ้วนลงพุงเนื่องจากแนวทางการแก้ไขจะแตกต่างกันออกไป
ในภาวะหนังหน้าท้องหย่อน การแก้ไขที่เหมาะสมคือการตัดหนังหน้าท้องรวมถึงไขมันส่วนเกินออก และอาจพิจารณาดูดไขมันร่วมด้วย ส่วนในภาวะอ้วนลงพุงจะมีเฉพาะไขมันส่วนเกิน แต่ไม่มีการหย่อนคล้อยของผิวหนังหรือกล้ามเนื้อ สามารถทำการแก้ไขปัญหาด้วยการดูดไขมันเป็นหลัก
หลังการผ่าตัดหนังและไขมันหน้าท้อง จะใช้เวลาราว 3-6 เดือนเพื่อให้เนื้อเยื่อและผิวหนังเข้าที่ นอกจากนั้นผู้เข้ารับการผ่าตัดควรควบคุมนํ้าหนักและออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างต่อเนื่อง เพื่อจะลดการกลับเป็นซํ้าของภาวะหนังหน้าท้องหย่อนและไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้อง
ผู้ที่เหมาะกับการผ่าตัด
ผู้ที่หน้าท้องหย่อนคล้อย (อาจมีปัญหาไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้องร่วมด้วยหรือไม่ก็ได้)
รายละเอียดการผ่าตัด
เมื่อทำการดมยาสลบ แพทย์จะทำการลงแผลตามที่วาดไว้ จากนั้นทำการตัดผิวหนังหน้าท้องและไขมันส่วนเกินออก ย้ายตำแหน่งสะดือให้เหมาะสม เย็บกระชับกล้ามเนื้อหน้าท้อง ทำการหยุดเลือด ใส่สายระบายเลือดและทำการเย็บแผลปิด แผลผ่าตัดจะมีลักษณะเป็นแผลตามยาวเหนือหัวหน่าว
ในบางรายที่มีไขมันเกินบริเวณหน้าท้องด้านบน เอวทั้งสองข้าง และหลัง อาจพิจารณาทำการดูดไขมันร่วมด้วยได้
การดูแลรักษาหลังผ่าตัด
-
เช็ดทำความสะอาดแผลทุกวัน ห้ามแผลโดนนํ้าจนถึงวันตัดไหม
-
ใส่สายระบายเลือดไว้ 1-2 วันหลังผ่าตัด
-
หลังจากผ่าตัด 3 วันให้เริ่มใส่ที่รัดหน้าท้องและใส่ต่อเนื่องจนครบ 2 เดือน
-
ในช่วง 3 วันที่นอนโรงพยาบาล ผู้เข้ารับการผ่าตัดต้องอยู่ในท่านอนหงายงอสะโพกเพื่อลดความตึงบริเวณแผลผ่าตัด หลังจากผ่าตัด 3 วัน เริ่มเดินในท่างอหลังเล็กน้อย และสามารถเดินยืดตัวตามปกติ 14วันหลังผ่าตัด
-
ตัดไหมหลังผ่าตัด 14 วัน หลังตัดไหมสามารถโดนนํ้าได้
-
หน้าท้องจะค่อยๆ เข้าที่ภายในระยะเวลา 3-6 เดือน
-
แผลอาจเห็นได้ชัดในช่วง 3 เดือนแรก หลังจากนั้นจะค่อยๆจางไปภายใน 1 ปี
ผลข้างเคียงที่อาจพบได้
-
ภาวะนํ้าเหลืองคั่งใต้แผลผ่าตัด พบได้ตั้งแต่หลังจากผ่าตัดใหม่ๆ จนกระทั่งผ่านไปแล้วหลายสัปดาห์ หากปริมาณนำ้เหลืองไม่มากจะรักษาแบบประคับประคอง หากมีปริมาณมากอาจต้องพิจารณาเจาะระบายออก
-
แผลผ่าตัดแยก ติดเชื้อ อาจพบได้ในกลุ่มผู้ที่มีนํ้าหนักค่อนข้างมาก ในรายที่เป็นมากจะพิจารณาผ่าตัดเย็บซ่อมแซมบาดแผล
-
แผลเป็น ในผู้บางกลุ่มอาจพบแผลเป็นนูนได้ สามารถจะแก้ไขด้วยการฉีดสเตียรอยด์ที่บริเวณแผลเป็นนูน
ผลของการผ่าตัดจะอยู่ได้นานเเค่ไหน
สามารถให้ผลการรักษาที่ดีได้ประมาณ 5-10 ปี แตกต่างกันไปในแต่ละคน