ดึงหน้าหรือดึงคอด้วย Endotine
Face & Neck Lift with Endotine
ใช้หลักการเดียวกันกับการผ่าตัดดึงหน้าและคอ กล่าวคือ มีการลงแผล ทำการเลาะแยกชั้นผิวหนัง (Skin) และเนื้อเยื่อชั้นใต้ผิวหนัง (SMAS & Platysma) จากนั้นทำการดึงเนื้อเยื่อชั้นใต้ผิวหนังด้วยอุปกรณ์ที่เรียกว่า Endotine ribbon สามารถดึงได้ทั้งใบหน้าและลำคอ การผ่าตัดด้วยวิธีนี้จะใช้เวลาน้อยกว่า แผลผ่าตัดมีขนาดเล็กกว่าการผ่าตัดดึงหน้าและคอทั่วไป การผ่าตัดนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ยังมีความหย่อนคล้อยของผิวหนังไม่มาก และไม่ต้องการผ่าตัดใหญ่
การเตรียมความพร้อมผู้เข้ารับการผ่าตัดเป็นเช่นเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้า หากผู้เข้ารับการผ่าตัดมีปัญหาความหย่อนคล้อยเฉพาะบริเวณใบหน้าหรือลำคอ สามารถเข้ารับการผ่าตัดอย่างใดอย่างหนึ่งได้ หากมีปัญหาทั้งสองบริเวณก็สามารถทำศัลยกรรมดึงคอและดึงหน้าไปพร้อมกันในครั้งเดียว
ผู้ที่เหมาะกับการผ่าตัด
-
ผู้ที่มีรอยเหี่ยวและผิวหนังที่หย่อนบริเวณใบหน้าและลำคอไม่มาก และไม่ต้องการผ่าตัดใหญ่
รายละเอียดการผ่าตัด
เมื่อดมยาสลบเรียบร้อย แพทย์จะฉีดยาชาและนํ้าเข้าไปยังผิงหนังทั่วทั้งบริเวณที่ต้องการจะดึง หลังจากนั้นจึงลงแผลบริเวณหน้าหูสำหรับการดึงหน้า และหลังหูสำหรับการดึงคอ แล้วทำการเลาะผิวหนัง (Skin) ออกจากเนื้อเยื่อชั้นใต้ผิวหนัง (SMAS&Platysma) ทำการดึงเนื้อเยื่อชั้นใต้ผิวหนังด้วย Endotine ribbon ให้กระชับ ตัดผิวหนังส่วนเกินออก ทำการหยุดเลือดให้สนิท แล้วใส่สายระบายและทำการเย็บแผล
การดูแลรักษาหลังผ่าตัด
-
ประคบเย็นในช่วง 3 วันแรกบริเวณที่ผ่าตัด
-
เช็ดทำความสะอาดแผลทุกวัน ห้ามแผลโดนนํ้าจนถึงวันตัดไหม
-
ใส่สายระบายเลือดไว้ 1 วัน
-
ใส่ที่รัดหน้าในวันรุ่งขึ้นหลังผ่าตัดและใส่ต่อเนื่องจนครบ 2 เดือน
-
ตัดไหม 7 วัน หลังตัดไหมสามารถล้างหน้าและแต่งหน้าได้
-
พยายามหลีกเลี่ยงแสงแดดนาน 3 เดือนหลังผ่าตัด
-
ภาวะบวมจะหายเป็นปกติภายในระยะเวลา 3-6 เดือน
-
แผลอาจเห็นได้ชัดในช่วง 3 เดือนแรก หลังจากนั้นจะค่อยๆจางไปภายใน 1 ปี
ผลข้างเคียงที่อาจพบได้
เหมือนกับการผ่าตัดดึงหน้าและคอทั่วไป
ผลของการผ่าตัดจะอยู่ได้นานเเค่ไหน
เช่นเดียวกับการดึงหน้า การผ่าตัดด้วย Endotine ribbon จะสามารถให้ผลการรักษาที่ดีได้ประมาณ 5-10 ปี ขึ้นกับผู้เข้ารับการผ่าตัดแต่ละคน