ผ่าตัดปรับรูปคาง
Genioplasty
รูปทรงคางที่สวยงามตามธรรมชาติ คือ เมื่อมองหน้าตรง ส่วนของคางจะต้องไม่ดูสั้นหรือยาวเกินไป เรียวสวย ส่วนปลายคางดูละมุน ไม่แหลม และไม่ดูเป็นก้อน หากมองจากมุมด้านข้าง คางไม่ควรยื่นเลยริมฝีปากล่างออกมา หรือถอยเข้ามากจนเกินไป และมีความยาวที่เหมาะสม
ในคนที่มีปัญหาคางสั้น คางถอย ในระดับที่ไม่มากนัก การเสริมคางดูจะเป็นคำตอบ แต่ในคนที่มีปัญหาคางแบบอื่น อาทิเช่น คางสั้นหรือถอยค่อนข้างมาก (การเสริมคางในคนไข้กลุ่มนี้ต้องใช้ซิลิโคนขนาดใหญ่ อาจทำให้เป็นคางดูเป็นก้อน และดูไม่ธรรมชาติ) มีคางยาวเกินไป ทำให้หน้าดูยาว ปัญหาคางยื่น หรือมีฐานคางค่อนข้างกว้าง ทำให้ใบหน้าดูสั้น มักจะต้องแก้ไขด้วยการผ่าตัดปรับรูปคาง
ผู้ที่เหมาะกับการผ่าตัด
-
ผู้ที่มีคางสั้น/ถอยค่อนข้างมาก
-
ผู้ที่มีคางยาว ทำให้ใบหน้าดูยาวเกินไป
-
ผู้ที่มีคางยื่นเลยริมฝีปากล่างออกมามาก
-
ผู้ที่มีฐานคางกว้าง ทำให้ใบหน้าดูสั้น ไม่เรียว
รายละเอียดการผ่าตัด
ภายหลังการดมยาสลบและฉีดยาชาแล้ว แพทย์จะผ่าตัดเปิดแผลบริเวณด้านในริมฝีปากล่าง จากนั้นทำการตัดกระดูกส่วนคางออกมา ทำการลดขนาด หรือเลื่อนให้อยู่ในตำแหน่งใหม่ที่เหมาะสม ทำการยึดด้วยแผ่นยึดไทเทเนียมเพื่อให้เกิดความแข็งแรง หลังจากนั้นทำการกรอกระดูกเพื่อเก็บรายละเอียด หยุดเลือดให้เรียบร้อย ใส่สายระบายเลือดแล้วจึงทำการเย็บแผลปิด
การดูแลรักษาหลังผ่าตัด
-
ประคบเย็นในช่วง 3 วันแรกบริเวณที่ผ่าตัด
-
แผลผ่าตัด ให้บ้วนปากทุกวัน วันละ 4 เวลา (เช้า-กลางวัน-เย็น-ก่อนนอน) ไม่ต้องตัดไหม ไหมจะหลุดออกมาเองหลังผ่านไป 1-2 เดือน
-
ใส่สายระบายเลือดไว้ 1 วันหลังการผ่าตัด
-
พยายามหลีกเลี่ยงอาหารร้อน อาหารรสจัด อาหารหมักดอง อาหารที่ต้องเคี้ยวมากๆ 1-2 เดือน
-
ใส่ที่รัดหน้าในวันรุ่งขึ้นหลังผ่าตัดและใส่ต่อเนื่องจนครบ 2 เดือน
-
ภาวะบวมจะหายเป็นปกติภายในระยะเวลา 6 เดือน ส่วนอาการชาบริเวณริมฝีปากล่าง หากมีอาการจะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 3-6 เดือน
ผลข้างเคียงที่อาจพบได้
-
อาจมีอาการชาบริเวณริมฝีปากล่าง โดยภาวะนี้จะค่อยๆ ดีขึ้นจนหายเป็นปกติในเวลา 3-6 เดือน
-
แผลในปาก หากดูแลไม่ดีอาจเกิดการติดเชื้อได้
-
ในบางคนอาจเกิดภาวะผิวหนังบริเวณคางหย่อนคล้อยเนื่องจากส่วนของกระดูกคางที่เป็นฐานรองรับถูกตัดไป ทำให้คางดูห้อยย้อย
ผลของการผ่าตัดจะอยู่ได้นานเเค่ไหน
รูปทรงคางที่แก้ไขแล้วจะอยู่ได้ตลอดไป