เติมไขมันใบหน้า
Lipofilling
เมื่ออายุมากขึ้น นอกจากผิวหน้าจะมีความเหี่ยวย่นและหย่อนคล้อยแล้ว ไขมันที่บริเวณใบหน้าก็จะค่อยๆ ฝ่อไป ทำให้ใบหน้าดูซูบตอบ มีร่องต่างๆ ที่เห็นได้ชัดขึ้น เช่น ร่องเหนือตา ร่องใต้ตา ร่องแก้ม ร่องขมับ การผ่าตัดไม่ว่าจะเป็นทำตา ยกคิ้วหรือดึงหน้าในบางครั้งไม่สามารถแก้ไขปัญหาร่องลึกได้ทั้งหมด การเติมไขมันใบหน้าจึงเป็นวิธีที่ช่วยแก้ไขให้ปัญหาดังกล่าวข้างต้น ทำให้ผลลัพธ์ของการผ่าตัดดียิ่งขึ้น
การเติมไขมันใบหน้าสามารถเติมได้หลายจุด เช่น หน้าผาก ขมับ รอบดวงตา ร่องแก้ม ร่องนํ้าหมาก โดยสามารถทำไปพร้อมกับการผ่าตัดตาหรือดึงหน้าได้ ส่วนในรายที่อายุไม่มาก ผิวหนังยังไม่หย่อนคล้อยมากนัก สามารถแก้ไขด้วยการเติมไขมันเพียงอย่างเดียวได้
สิ่งที่ควรคำนึงถึงเกี่ยวกับการเติมไขมัน คือ ไขมันที่เติมจะมีการสลายได้ 20-60% ขึ้นกับบริเวณที่ฉีดและผู้เข้ารับการผ่าตัดแต่ละคน โดยทั่วไปแล้วปริมาณไขมันจะคงที่หลังจากฉีดไปประมาณ 1 ปี ผู้เข้ารับการผ่าตัดสามารถเติมไขมันซ้ำได้ ขึ้นกับการประเมินของแพทย์
การเติมไขมันควรทำแต่พอดี เนื่องจากการฉีดไขมันที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดเป็นก้อนคลําได้ในบริเวณที่ฉีด
ผู้ที่เหมาะกับการผ่าตัด
-
ผู้ที่มีร่องเหนือตา ร่องใต้ตา ร่องแก้ม ร่องขมับที่ค่อนข้างลึก
-
ผู้ที่อยากเติมเต็มใบหน้า ทำให้หน้าดูอ่อนวัยลง
รายละเอียดการผ่าตัด
แพทย์จะวาดรูปบริเวณที่จะเติมไขมัน จากนั้นจะเจาะดูดไขมันจากบริเวณหน้าท้องหรือต้นขาของผู้เข้ารับการผ่าตัด ทำการคัดแยกเฉพาะ
ไขมันแล้วนำไปฉีดเข้าในบริเวณที่วาดไว้ เมื่อได้ปริมาณตามที่ต้องการแล้วก็จะทำการเย็บปิดแผลที่บริเวณที่ฉีดและหน้าท้องหรือต้นขา
การดูแลรักษาหลังผ่าตัด
-
ประคบเย็นในช่วง 3 วันแรกบริเวณที่ผ่าตัด
-
เช็ดทำความสะอาดแผลทุกวัน ห้ามแผลโดนนํ้าจนถึงวันตัดไหม
-
ตัดไหม 7 วัน หลังตัดไหมสามารถล้างหน้าและแต่งหน้าได้
-
พยายามหลีกเลี่ยงแสงแดดนาน 3 เดือนหลังผ่าตัด
-
ภาวะบวมจะหายเป็นปกติภายในระยะเวลา 3 เดือน
-
ไขมันจะสลายไปเรื่อยๆ ภายใน 1 ปี ในแต่ละบริเวณจะมีอัตราการสลายที่ไม่เท่ากัน
ผลข้างเคียงที่อาจพบได้
-
ไขมันที่เติมจะมีการสลายได้ 20-60% ขึ้นกับบริเวณที่ฉีด โดยการสลายจะหยุดหลังจาก 1 ปีเป็นต้นไป
-
การเติมไขมันที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดเป็นก้อนคลําได้บริเวณที่ฉีด